• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

🌏เจาะสำรวจดิน🌏 สิ่งจำเป็น ⚡แต่คนมองข้าม เหตุผลที่ต้องเจาะสำรวจดิน🎯

Started by deam205, Jul 26, 2024, 01:30 PM

Previous topic - Next topic

deam205

🌏🛒👉โดยปกติแล้วเมื่อท่านทำการก่อสร้างบ้านหรืออาคาร🎯 ถ้าท่านไม่ใช่วิศวกรส่วนใหญ่ก็จะทำตามแนวทางที่ผู้รับเหมาแนะนำ🥇 แต่ผู้รับเหมาบางเจ้า⚡ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย✨ (ผมขอย้ำว่าบางราย ไม่ใช่ทุกรายนะครับ🌏) ก็จะละเว้นการทดสอบบางอย่างที่เห็นว่าไม่จำเป็น✅ ซึ่งสิ่งแรก ๆ ที่มักถูกตัดออกคือการเจาะสำรวจดิน🥇 ในบทความนี้จะอธิบายความสำคัญของการเจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้าง👉 ว่าไม่ควรมองข้ามและมีประโยชน์อย่างไร🛒



✨🥇🛒🦖เหตุผลในการเจาะสำรวจดิน📢🦖🎯✅👉

1. เพื่อทราบชนิดและประเภทของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง📌 เพื่อประเมินลักษณะเชิงกล👉 เพื่อเลือกใช้ฐานรากได้ถูกประเภท🛒 หากดินมีความแข็งแรงเพียงพอ อาจเลือกใช้ฐานแผ่🎯
2. ทำให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน (ดินแข็ง)📌 ว่าอยู่ลึกลงไปเท่าไร เพื่อจะได้คำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม🥇 และการประเมินความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม✨
3. ลดความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม✅ หากพบชั้นดินแข็งที่ไม่หนาในความลึกที่น้อย⚡ อาจทำให้คนตอกเสาเข็มหยุดตอก เพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็งแล้ว📌 แต่จริง ๆ สามารถตอกทะลุลงไปได้หากเข่นลงไปอีกซักพัก⚡
4. หากดินในบริเวณสำรวจมีความผันผวนสูง🥇 วิศวกรอาจสั่งให้เจาะสำรวจดินหลาย ๆ หลุมเพื่อเปรียบเทียบ✨ อาจต้องออกแบบฐานรากหลายแบบเพื่อก่อสร้างอาคารในบริเวณนั้น🥇

📌🦖🎯🛒วิธีการเจาะสำรวจดินที่นิยม🌏🥇🛒📌📌

1. การเจาะสำรวจดิน โดยใช้เครื่องเจาะแบบ Motorized Drilling Rig✨
เครื่องเจาะที่เคลื่อนย้ายสะดวก📌 อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดาหน่วยเจาะสำรวจดิน⚡ ว่ากันด้วยเรื่องของความง่าย🦖 และประหยัดเวลาในการติดตั้ง📌 ทำให้งานเจาะสำรวจดินเสร็จเร็วขึ้น ในที่นี้ขอกล่าวถึง การเจาะสำรวจดินแบบฉีดล้าง (Wash Boring)🥇 ก็จะเป็นในลักษณะของการใช้เครื่องสูบน้ำช่วยเจาะด้วยหัวกระทุ้ง (Chopping Bit)🥇 ต่อจากก้านเจาะ👉 ปลายบนต่อกับหัวหมุนน้ำ⚡ ซึ่งจะต่อไปยังเครื่องสูบน้ำขณะทำการกระทุ้งดิน✨ จะทำการฉีดน้ำผ่านรูก้านเจาะ📢 น้ำที่ฉีดจะไหลวนขึ้นมาพร้อมกับเศษดิน ซึ่งจะมาตกในบ่อน้ำวน จนได้ความลึกที่ต้องการเก็บตัวอย่าง
การเจาะตลอดความลึกของหลุมเจาะ ในดินเหนียวอ่อน🥇 หลุมเจาะจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วและลดลงเหลือ 3 นิ้ว ในชั้นดินแข็ง📢 ระหว่างดำเนินการเจาะสำรวจดินก็ต้องมีการฝัง ท่อป้องกัน🎯 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้วลงไปจนถึงดินแข็ง📢 เพื่อป้องกันการพังทลาย📢 และใช้ สารละลายเบนโทไนต์📌 ช่วยกันดินพังในชั้นทราย✅ ทำการเจาะจนถึงชั้นดินแข็งที่มีค่า SPT-N > 50🎯

2.การเจาะสำรวจดินด้วย Rotary Drilling🥇
สามารถใช้เจาะดินได้ทุกประเภท📌 เป็นลักษณะของเครื่องมือเจาะที่มีประสิทธิภาพสูง⚡ ด้วยระบบไฮดรอลิก (Hydraulic)🎯 เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนแรงงานคนและแรงโน้มถ่วง🛒 สามารถเจาะสำรวจดินแบบทะลุทะลวงได้ลึกเกินกว่า 40 เมตร✨ โดยใช้เครื่องยนต์ Rotary Drilling Rig📌 ที่ส่งกำลังแรงปั่นหัวเจาะลงไปลึก ๆ และอยู่ในระดับความเร็วที่ต้องการ🛒 ดินจะถูกนำขึ้นมาตาม flight auger⚡
วิธีนี้เครื่องยนต์จะใช้กำลังบิดหัวเจาะมาก👉 ดังนั้นจึงมักเจาะสำรวจดินลงไปในช่วงสั้น ๆ เช่น 1.5 เมตร⚡ แล้วยกหัวเจาะขึ้น เพื่อนำดินออก🛒 แล้วจึงนำไปเจาะต่ออีก 1.5 เมตร🛒 จึงสามารถตรวจลักษณะชั้นดินได้ตลอดความลึก📌 การใช้หัวเจาะร่วมกับการเจาะแบบฉีดล้าง📌 หรือจะเป็นไปในลักษณะของการเจาะสำรวจดินด้วยความเร็วสูง🦖 ทำให้ตัดดินขาดออก พร้อมทั้งปล่อยน้ำ🎯 โดยใช้แรงดันน้ำจากปั๊มน้ำแรงดันสูง🦖 เพื่อพาดินตัดขาดแล้วกลับขึ้นมาที่ผิวดิน👉 เศษดินและหินถูกส่งขึ้นมาพร้อมน้ำจากหัวเจาะ🥇 ในดินแข็งหลุมที่เจาะจะเปิดไม่พังทะลาย✅

แต่ในดินแบบ soft clay หรือ sand🛒 ต้องใช้ท่อเหล็กป้องกันการพังทลาย✨ หรือไม่ก็ต้องใช้ drilling mud (ส่วนผสมของน้ำกับสาร Bentonite)⚡ ผสมลงในน้ำที่ฉีดลงไปในหลุมเจาะ เพื่อป้องกันการพังทลาย🌏 นอกจากจะทำให้ผนังและหลุมเจาะไม่พังแล้ว ยังช่วยพาเอาวัสดุเม็ดใหญ่จากก้นหลุมขึ้นมาด้วย🌏 เป็นเหตุให้หลุมเจาะสะอาด ในกรณีพบหินแข็งต้องเป็นหัวเจาะเพชรเพื่อกัดลงในชั้นหินให้ได้พร้อมเก็บตัวอย่างแท่งหิน⚡ จึงเรียกว่า การเจาะหิน (Rock Coring)✨