• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

🌏การเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring) 🥇และ📌 การเจาะสำรวจดินในงานก่อสร้าง📢

Started by Cindy700, Jul 28, 2024, 02:06 AM

Previous topic - Next topic

Cindy700

การเจาะสำรวจดิน 🛒คือกรรมวิธีการเจาะดิน, เก็บตัวอย่างดิน, การทดสอบดินในสนาม, หยั่งชั้นดินจากผิวดิน 🎯หรือใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลทางแนวดิ่งของชั้นดิน และลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางแนวราบ เพียงพอในการที่จะใช้ออกแบบ 👉หรือการศึกษาเชิงปฐพีกลศาสตร์ ลักษณะการเจาะสำรวจดินจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้งานด้วย เช่น การสร้างถนนหรือสนามบิน การสำรวจจะเป็นการเจาะตื้น แต่งานฐานรากเสาเข็มต้องสำรวจลงไปลึกกว่าปลายเข็มที่คาดว่าจะใช้งาน ⚡สำหรับในบทนี้จะพูดถึงวิธีการเจาะสำรวจดินขั้นพื้นฐาน โดยใช้ สว่านมือ (Hand Auger), การเจาะล้าง (Wash Boring) 🌏และการเก็บตัวอย่างดินด้วยกระบอกบาง🎯

📢📢📢เจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้างเพื่ออะไร?✨✨✨

1. เพื่อให้รู้ประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง 🥇ทราบลักษณะเชิงกล ช่วยให้เราเลือกฐานรากได้อย่างถูกต้อง ✅เช่น หากดินแข็งพอสมควรอาจใช้ฐานแผ่✨

2. เพื่อให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน (ดินแข็ง) ว่าลึกเท่าไร 👉เพื่อนำไปคำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม🌏 และเลือกขนาดและความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม⚡

3. เพื่อลดความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม 🌏เพราะหากเจอชั้นดินแข็ง แต่ไม่หนาที่ชั้นความลึกไม่มาก 👉อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าถึงชั้นดินแข็ง 🛒ทั้งที่จริง ๆ สามารถตอกทะลุลงไปได้อีก ⚡หากดินในบริเวณที่สำรวจมีความผันผวนมาก วิศวกรควรสั่งเจาะสำรวจดินหลายหลุม เพื่อเปรียบเทียบ ✅เพราะอาจต้องออกแบบฐานรากหลายชนิด สำหรับก่อสร้างอาคารนั้น🥇



📢📢📢วิธีเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring)📌📌📌

การเจาะสำรวจชั้นดิน📌คือการเจาะหลุมลงไปในดินเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของชั้นดิน🛒และเก็บตัวอย่างดินเพื่อนำมาทดสอบคุณสมบัติในห้องปฏิบัติการ🦖โดยทั่วไปการสำรวจชั้นดินที่ใช้มากในประเทศไทย ✨ได้แก่

1. การเจาะโดยใช้สว่านมือ (Hand Auger) ✨เป็นการเจาะด้วยแรงคน โดยใช้สว่านมือและก้านเจาะดังรูปด้านล่าง 📢โดยที่ก้านเจาะยาวประมาณ 1 เมตร สามารถต่อเพิ่มความยาวได้หลายท่อน เมื่อกดและหมุนก้านจนดินเต็มสว่านแล้วดึงขึ้นเพื่อนำดินออก 🥇ดินส่วนนี้สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติบางประเภททางวิศวกรรม 🥇การเจาะด้วยสว่านมือสามารถทำได้ลึกถึง 6-10 เมตรในดินเหนียวแข็งปานกลาง 👉ข้อเสียของวิธีการเจาะนี้คือไม่สามารถเก็บตัวอย่างดินเพื่อทดสอบความแข็งแรงหรือการทรุดตัวได้เนื่องจากโครงสร้างดินถูกทำลายโดยสว่าน⚡

2. การเจาะโดยใช้การฉีดล้าง (Wash Boring) 🦖คือการใช้แรงดันน้ำฉีดเจาะทำลายโครงสร้างดินเพื่อให้เกิดหลุม และเกิดการรบกวนดินด้านล่างน้อยที่สุด 🥇วิธีการเจาะเริ่มโดยการสูบน้ำผ่านก้านเจาะไปยังหัวฉีดที่ก้นหลุมพร้อมกับการกระแทกหรือหมุนของหัวเจาะ 🥇ทำให้ดินก้นหลุมหลุดไหลตามน้ำขึ้นมาบนผิวดินลงในอ่างตกตะกอนแล้วสูบน้ำที่ใสนำไปใช้ได้อีก 🎯ดังรูปด้านล่าง วิธีนี้ต้องอาศัยสามขา (Tripod) เครื่องกว้าน (Motor และ Catch head) ✨และปั๊มน้ำ ในกรณีที่เจาะในชั้นของดินอ่อน จะต้องใช้ปลอกกันดินพัง (Casing)ด้วย โดยต่อเป็นท่อน ๆ ✨และเมื่อเจาะถึงชั้นทรายจะไหลเข้ามาในหลุม จึงต้องผสมสารเบนโทไนต์ (Bentonite) กับน้ำ ✅เนื่องจากเบนโทไนต์คือแร่ชนิด มอนต์มอริลโลไนต์ มีความสามารถในการดูดน้ำดีและพองตัวได้มาก 🎯ทำให้ความหนาแน่นของน้ำภายในหลุมมากกว่าน้ำในชั้นทราย⚡ น้ำจึงไม่ไหลเข้าในหลุม การเจาะแบบนี้สามารถหยุดเพื่อเก็บตัวอย่างดินได้ตามระยะที่กำหนด ⚡การเจาะสำรวจในกรุงเทพฯ เพื่อก่อสร้างอาคารจะเจาะสำรวจตั้งแต่ 30-80 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอาคาร📢